วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

รักร่วมเพศ



รักร่วมเพศ 
(เกย์เลสเบี้ยนและทรานส์เซ็กช่วล )


มนุษย์ทุกคนมีรูปแบบของร่างกายและสมองที่เคยเป็นเพศหญิงขณะที่ตัวอ่อนอยู่ในการมารดา ดั้งนั้นผู้ชายจึงมีอวัยวะมากมายคล้ายคลึงกับผู้หญิง อาทิ หัวนม เป็นต้น ที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือ ผู้ชายทุกคนมีต่อมน้ำนมซึ่งสามารถผลิตน้ำนมได้ เพียงแต่มันไม่ทำงานเท่านั้นเอง

ากมนุษย์เพศหญิงสู่ เกย์เลสเบี้ยนและทรานส์เซ็กช่วล
ช่วง 6-8 สัปดาห์หลังจากการปฏิสนธิ ตัวอ่อนเพศชาย (xy)จะได้รับฮอร์โมนเพศชายที่เรียกว่า “แอนโดรเจน” จำนวนมหาศาลซึ่งนำไปเปลี่ยนรูปแบบของสมองจากผู้หญิงให้เป็นผู้ชาย ถ้าหากในช่วงดังกล่าว ตัวอ่อนเพศชายไม่ได้รับฮอร์โมนเพศชายในปริมาณที่เพียงพอในช่วงเวลาที่เหมาะสม  ก็จะมีผลเกิดขึ้นได้ 2 ประการ
ประการ แรก ทารกเพศชายที่ถือกำเนิด อาจจะมีรูปแบบสมองเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย หรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ ทารกคนนั้นมีโอกาสจะเป็นเกย์ ได้เมื่อถึงวัยเจริญพันธ์
ประการที่สอง ทารกเพศชายผู้นั้นอาจจะมีสมองซึ่งเป็นหญิงล้วนๆ แต่กลับมีอวัยวะเพศเป็นผู้ชายล้วนๆ เด็กคนนี้ก็จะจัดอยู่ในประเภท “ทรานส์เซ็กช่วล หรือ ทรานส์เจนเดอร์” ซึ่งหมายถึงคนที่เกิดเป็นเพศใดเพศหนึ่งโดยสรีระ แต่รู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองเป็นเพศตรงข้าม


            รักร่วมเพศคือส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์
ชาวกรีกโบราณไม่เคยรังเกียจเดียดฉันท์ คนที่นิยมไม้ป่าเดียวกัน ตรงกันข้ามพวกเขากลับชื่นชมยกย่องบุคคลเหล่านั้นด้วยซ้ำ เพราะชาวกรกเชื่อว่า รักร่วมเพศในหมู่ชายเป็นกิจกรรมอันสูงส่งควรค่าแก่การนับถือ ดังนั้น เด็กหนุ่มๆ ชาวกรีกจึงมีแรงบันดาลใจอยากจะเป็นเกย์เพื่อจะได้เป็นบุคคลสำคัญของชุมชนตามความเชื่อดังกล่าว โดยมีบุคคล สมัยโรมันโบราณ จูเลียส ซีซาร์ ได้รับการกล่าวขวัญถึงว่าเป็น “ผู้ชายที่ผู้หญิงทุกคนหมายปอง และเป็นผู้หญิงที่ผู้ชายทุกคนใฝ่ฝันถึง” เช่นกัน

           
เข้าใจรักร่วมเพศ
ผู้ที่เป็นรักร่วมเพศ ไม่ใช่คนที่น่ารังเกียจ หรือ แส้แสร้ง แกล้งทำ แต่มันเกิดจากการปฏิสนธิทั้งแต่ในครรภ์แล้ว เพราะฉะนั้นทุกคนควรที่จะเปิดใจรับ ผู้ที่เป็นรักร่วมเพศให้มากขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น